Friday 5 October 2012

YUNOMORI ONSEN & SPA - อาบน้ำแร่แต่ไม่แช่น้ำนม

น้ำแร่ไทยในแบบญี่ปุ่น

ชาติตะวันตกกล่าวว่า "We bath to clean body"
วัฒนธรรมตะวันออกกล่าวว่า "We clean body in order to bath"

การอาบน้ำแบบตะวันออกมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการเอาขันหรือกะลาตักน้ำมาราดรดตัวเองแบบไทยที่ต่างชาติเรียกว่า Siamese Bath
หรือการแช่บ่อน้ำแร่น้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่าออนเซ็น
แต่ละอย่างล้วนแต่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง

เรื่องราวในวันนี้ที่จะมาพูดถึงกันก็คือการอาบน้ำแบบญี่ปุ่นหรือออนเซ็นนั่นเอง
มันมีความคล้ายคลึงกับการแช่น้ำแร่ที่เชียงใหม่หรือระนองตามที่เรารู้จักกันในรายการทีวีนำเที่ยวนั่นล่ะ
แต่ว่าที่นี่มีกฎมีระเบียบข้อปฏิบัติที่แปลกตามากกว่า

YUNOMORI ONSEN & SPA @ A SQUARE

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ซอยสุขุมวิท26หรือจะเข้ามาจากทางถนนพระราม4ช่วงแยกอารีก็ได้เหมือนกัน
โครงการ A Square ตั้งอยู่เยื้องๆกับ K Village เรียกว่าหากันได้ไม่ยาก

ด้วยความที่ว่าที่นี่ให้บริการห้องอาบน้ำและบ่อน้ำแร่แช่ตัวเหมือนที่ญี่ปุ่นทุกประการ
เลยทำให้รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์แบบตะวันออกอย่างเด่นชัด
ชัดจนต้องนำมาเล่าสู่กันฟังซะหน่อย

โดยส่วนตัวแล้วก็เคยเข้าห้องอาบน้ำสาธารณะที่โอซาก้ามาก่อนเมื่อครั้งที่ยังเรียนหนังสืออยู่
แต่นั่นมันก็ไม่เหมือนที่นี่ซะทีเดียว

เราได้เดินทางมาที่นี่ตามคำชักชวนของรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยซึ่งทำงานอยู่ที่นี่ ให้มาลองรับบริการ
เมื่อแรกขับรถเข้ามาในโครงการวิ่งตรงมาเรื่อยๆสายตาก็ปะทะกับอาคารที่ตบแต่งด้วยไม้ไผ่ใหญ่อลังการมาก



ประตูกระจกไฟฟ้าเลื่อนเปิดออกพร้อมกับคุณผู้จัดการซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นยืนต้อนรับอยู่เชียว



จากนั้นเราก็ชำระเงินก่อนทันที
โดยที่มีพนักงานสาวสวยยิ้มหวานเป็นคนจัดแจงให้ทุกสิ่งอย่าง


ราคาออนเซ็นอย่างเดียวก็ 450 บาท
แต่ที่นี่มีมากกว่าน้ัน นวดไทยก็มีรองรับด้วย แต่ลืมราคาซะแล้ว ยังไงก็สามารถสอบถามได้ที่ร้านนะ



เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยพนักงานก็จะยื่นกุญแจล็อกเกอร์ให้และพาเราเข้าสู่ห้องเก็บรองเท้าก่อน
อย่าเดินสุ่มสี่มุ่มห้าเองนะถ้ายังไม่เคยไปมาก่อน เพราะมีโอกาสหลงทางได้สูงมาก


เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะแล้ว พนักงานก็พาเดินออกจากตัวอาคารต้อนรับผ่านส่วนพักผ่อน
ที่ดูแล้วเหมือนจะเปิดร้านกาแฟในอนาคต มีร้านขายเบียร์จาก Asahi เปิดแล้วด้วย


หน้าห้องแต่งตัวก็มีพนักงานให้บริการต่ออีก 
ชุดยูกาตะ ผ้าขนหนูผืนเล็กและผืนใหญ่ ถูกเตรียมไว้อย่างเป็นระเบียบ
เดินต่อเข้าไปก็เป็นที่เก็บรองเท้าแตะ เปิดประตูเลื่อนเพื่อเข้าสู่ห้องล็อกเกอร์ต่อไป


สิ่งที่หลายคนอาจจะตกใจเมื่อแรกเข้าไม่ใช่บรรยากาศสะอาดสะอ้านในล็อกเกอร์แต่อย่างใด
แต่มันคือลูกค้าคนอื่นๆที่เปลือยกายกันอยู่เต็มห้องนั่นเอง
ถูกต้องแล้ว อ่านกันไม่พลาดแน่นอน ที่นี่ทุกคนต้องเปลือยกายหรือพูดง่ายๆว่าแก้ผ้าหมดเลยนั่นเอง
สาเหตุว่าทำไมต้องแก้ผ้าด้วย ได้คำตอบมาว่าเพื่อให้ทุกคนปล่อยวาง ไม่ยึดติด นั่นเอง
ล็อกเกอร์แยกชายหญิงนะ ไม่มีการปะปน ทุกอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกโรคจิตคิดถ้ำมอง

มาถึงกฎในการใช้บริการบ้าง
ถอดเสื้อผ้าเก็บของให้เรียบร้อย
อาบน้ำให้สะอาด ที่นี่มีแชมพู ครีมนวดผม สบู่เหลว ไว้ให้บริการ 
(หลังจากอาบน้ำแล้วต้องเก็บเครื่องอาบน้ำให้เข้าที่ด้วย ที่นี่เป็นแบบนั่งอาบเหมือนที่ญี่ปุ่น)


ห้ามสวมชุดยูกาตะเข้าบริเวณอาบน้ำ
ห้ามนำผ้าขนหนูผืนใหญ่เข้าบริเวณอาบน้ำ
ห้ามซักผ้าขนหนูในบ่อออนเซ็น
ห้ามนำมือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเข้าบริเวณอาบน้ำ
ห้ามขับถ่ายในบ่อออนเซ็น
ห้ามว่ายน้ำในบ่อออนเซ็น
หลังจากใช้ห้องซาวน่า/สตีม ต้องล้างตัวก่อนใช้บริการออนเซ็น
และป้ายขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะปฏิเสธลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าจะมาเล่นแชร์แทงหวยเสียงดังตะโกนโวยวายไม่ได้ ไม่เหมาะสม
เพราะวันที่ไปมีลูกค้าเยอะมาก แต่ทุกคนก็อยู่กันอย่างเงียบๆแม้ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนกันก็ตาม

ห้ามนำชุดยูกาตะกลับบ้าน ค่าปรับ5,000บาท
แพงไปปะล่ะ 
แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็ติดต่อพนักงานได้ ซื้อหากันให้อย่างถูกต้องดีกว่า

มาถึงบ่อออนเซ็นละ
บ่อแรกเป็นบ่อโซดา (Soda Spa) มีที่ญี่ปุ่นและก็ที่เมืองไทยเท่านั้น
การแช่ตัวในบ่อนี้ต้องอยู่เฉยๆอยู่นิ่งๆให้ฟองจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกาะตามตัวเพื่อทำความสะอาดผิว 
อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30 กว่าองศา


บ่อจากุซซี่ที่แบ่งเป็นช่องๆ มี4ช่อง อุณหภูมิอยู่ที่ 43.3 องศา
บ่อน้ำเย็นเล็กๆ อุณหภูมิ 14 องศา เย็นมากจริงๆ
อันที่เรียกว่าเป็นตัวเด่นของที่นี่คือบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ
ซึ่งน้ำแร่นำมาจากระนอง ซึ่งเป็นน้ำแร่ที่มีความใสสะอาดบริสุทธิ์ติดหนึ่งในสามของโลก
แต่บ่อนี้ก็เป็นบ่อที่ร้อนที่สุดเหมือนกัน




มีส่วนอาบน้ำกลางแจ้งด้วย แต่ว่าทางร้านเขาปิดมิดชิดไม่มีประเจิดประเจ้อแน่นอน
ถังแช่น้ำร้อนแบบคนเดียวก็มีให้บริการที่ส่วนนี้ด้วย


การแช่ตัวในออนเซ็นก็อยากให้แช่บ่อละ 5-10 นาที ยกเว้นบ่อน้ำเย็นนะ
จะได้ซึมซับถึงคุณประโยชน์จากออนเซ็นได้สูงที่สุด

ที่นี่สามารถอยู่ได้ยาวนานเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ใจชอบ
แต่บัตรจอดรถประทับตราได้แค่ 2ชม.นะ

ช่วงอายุของผู้ที่สามารถใช้บริการได้ก็เริ่มตั้งแต่ 18-65 ปี 
เพราะถ้าเด็กกว่านี้หรือโตกว่านี้อาจจะเกิดอุบัตเหตุได้ง่าย

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคุณเป็นคนรักษ์สุขภาพและอยากพบประสบการณ์แบบใหม่ๆในการดูแลตัวเอง
อย่ามัวแต่ลังเลลองมาสัมผัสออนเซ็นแบบชาวอาทิตย์อุทัยในแผ่นดินสยามกันดีกว่า

No comments:

Post a Comment