Monday 1 October 2012

Fashion week or weak

ตั้งชื่อเรื่องได้ซ้ำซากมากไม่มีเวลาจะคิด เพราะกำลังนั่งคิดสรตะถึงเหตุการ์ณประจำวันที่ผ่านมาและกำลังจะผ่านไปซึ่งจะไม่พูดถึงก็เดี๋ยวจะหาว่าไม่อิน    สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของแฟชั่นวีคปารีสที่ทั่วโลกคงชินชากับความเริ่ดหรูและยังคงเป็นที่จับตาดูมากที่สุดในบรรดาแฟชั่นวีคประจำเมืองแฟชั่นใหญ่ๆ  แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไปซะทีเดียวเพราะสำหรับหน้าร้อน2013  ปารีสดูจะเจียมเนื้อเจียมตัวไปซักนิดอาจเป็นเพราะผลพวงจากภาวะเศรฐกิจขาลงกระมัง เสื้อผ้าของแบรนด์ดังหลายแบรนด์ทำเอาเหล่าแฟชั่นนิต้าที่ตั้งตารอ  ไม่หายอยากจากอาการเสพติดแฟชั่นที่ฟู่ฟ่าบนโชว์ที่ดราม่าเวอร์วัง แต่สำหรับดิฉันแล้วถึงแม้โชว์จะเรียบง่ายแต่ก็เป็นโปรดักช์ที่ดูสมบูรณ์พร้อมเพรียงดี  ห๊าไปดูถึงขอบรันเวย์เลยเหรอ โนค่ะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวหน้า  ถึงเวลาเอาแค่อ้ารอหน้าคอมทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวก็มาเต็มตามดูแทบไม่ทัน  ส่วนเรื่องเสื้อผ้าร่ายยาวสามวันก็คงไม่จบไม่สิ้น  เพราะแฟชั่นวีคระดับปารีสตารางเค้าอัดแน่เต็มวีคจริง  หาได้เป็นแค่แฟชั่นวีค....เอนดั่งบ้านเรา  พูดถึงทุกโชว์คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี  ถามว่า...โชว์ที่เฝ้ารอดูมากที่สุดของปารีสss13คืออะไร  ก็คงหนีไม่พ้นคริสเตียนดิออร์  แบรนด์โปรดที่ไม่เคยซื้อแต่ชื่นชมในควาเป็นมาและยิ่งไปกว่านั้นผลงานในยุคของกัลลิอาโน่  จากจุดแยกอีกครั้งของการเลือก ราฟ ซีโมนมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์และได้ปรับภาพใหม่ของแบรนด์ไปตั้งแต่คอลเล็กขั่น COUTURE fall2012  ให้เรียบง่ายหักดิบสไตล์ที่กัลลิอาโนได้ทิ้งไว้กับแบรนด์อย่างชัดเจนแทบไม่เหลือซาก
Christian Dior resort11 by John Galliano

Christian Dior SS13 by Raf Simon

ซีซั่นss13 จึงน่าติดตามต่อเป็นที่สุดว่าเค้าจะแบกดิออร์บนบ่าแล้วก้าวต่อไปอย่างไร  และ....แล้ว....ก็ไม่ค่อยน่าปลื้มปริ่มเท่าไหร่นักในความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ  ภาพของความมีเอกลักษณ์ของผู้หญิงแบบดิออร์ไม่ได้โดดเด่นเป็นที่น่าจดจำอย่างสมัยกัลลิอาโน่  แถมกลิ่นอายและมนต์เสน่ห์ของความเป็นดิออร์ที่ชัดเจนมาตั้งแต่ยุค40  เลือนหายไปหมดสิ้น  ความสวยเย้ายวนในแบบที่ดิออร์ได้พยายามนำเสนอให้กับผู้หญิงทั่วโลกมาหลายยุคหลายสมัยถูกแทนที่ด้วยภาพของผู้หญิงเรียบนิ่งไม่อิงสังคม  กับลุ๊กที่ดูเหมือนพยายามย้ำคิดย้ำทำว่าต้องเรียบๆ  หนำซ้ำบางลุ๊กยังชวนให้ไปถึงสิ่งที่เค้าทำให้กับจิลแซนเดอร์แบรนด์ที่เค้าได้สร้างชื่อเสียงไว้ก่อนหน้าจะย้ายมา

Christian Dior SS13 by Raf Simon

Jil Sander SS11 by Raf Simon

สไตล์ของราฟไซมอนสวย ดิออร์สวย  แต่ราฟไซมอนฟอร์ดิออร์  ....เฉยๆ เป็นข้อความของเพื่อนbloggerที่ขึ้นโพสต์บนเฟสบุ๊กซึ่งฉันก็เห็นด้วย แต่ยังไงซะทางทีมมาเก็ตติ้่งอาจจะวิเคราะห์มาดีแล้วว่านี้จะเป็นแนวทางที่สร้างผลกำไรเพราะแฟชั่นไม่ใช่แค่งานออกแบบเสื้อผ้า  แฟชั่นคือพานิชศิลป์ และทุกอย่างมักจะเกี่ยวพันกับแฟชั่น  ก็คงต้องรอดูและลุ้นกันต่อไปสำหรับดิไซน์เนอร์ที่มีความเป็นตัวเองชัดเจน

พูดถึงความชัดเจน  ก็ทำให้นึกไปถึงความปราบปลื้มกับงาน  แฟชั่นอีเว้นหรูหราใหญ่ยักษ์โปรดักชั่นจัดเต็มมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสยามประเทศ Siam Paragon Couture Fashion Week 2012 จริงๆใช้คำว่าweekend ก็น่าจะพอ  งานนี้ปิดท้ายงานหลังจากโชว์ของห้องเสื้อโอตกูตูร์จากฝรั่ง Christophe Josse ด้วยแฟชั่นโชว์ร่วมกันของดิไซน์เนอร์ทั้งหมดที่มาร่วมงานนี้  ได้ออกแบบโดยใช้ผ้าไทยเป็นวัตถุดิบ  ที่ปราบปลื้มไม่ได้อยู่ที่ชุดสวยวิจิตรเพราะบางแบรนด์เทสเราก็เข้าไม่ถึงจริงๆยอมรับ  หากแต่อยู่การนำผ้าไหมไทยในสมเด็จพระราชินีฯมาใช้  เป็นการใช้โอกาสเพื่อสร้าง Identity ให้กับผ้าไหมไทย  ซึ่งต่อไปก็คงเป็นหน้าที่ของสื่อที่จะช่วยกันเผยแพร่  ซึ่งในปีนี้กระแสผ้าไทยนั้นได้กลับมาอีกครั้งจากหลายกิจกรรมสื่บเนื่องมาจากโครงการส่งเสริมศิลปาชีพด้านการทอผ้าของสมเด็จพระราชินีฯที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งต้องขอบอกว่าเป็นมิวเซียมที่ไม่ควรพลาดอย่างไม่ต้องคิดสรตะ




.
มานี
.

No comments:

Post a Comment